14/02/2019 0 Comment(s) เรียนออนไลน์,

(Private IP) IP Address & Subnet Mask ที่ควรรู้

 

        หลายคนเคยได้ยินคำว่า " IP Address " แต่มันคืออะไร? และ " Subnet Mask " คืออะไร? วันนี้เราจะพูดคุยถึงหัวข้อสองหัวข้อนี้กันดีกว่าเพื่อให้เข้าใจเพิ่มมากขึ้นและเป็นพื้นฐานที่ควรรู้

 

IP Address คืออะไร?

 

        IP Address คือ (Internet Protocol Address) เป็นหมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์โดยคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่ายจะมีหมายเลขประจำเครื่องเป็นของตัวเองที่ใช้ Protocol TCP/IP โดยสามารถเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย ๆ คือ IP Address ก็เหมือนเลขที่บ้าน, หมายเลขห้อง, หมายเลขโทรศัพท์, เป็นต้น IP Address มีความสำคัญ เช่น การส่งไฟล์ หากันระหว่างสองเครื่องจำเป็นต้องมีที่อยู่ผู้ส่ง และ ผู้รับเพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ จะไม่ได้เกิดความผิดพลาดของข้อมูลเวลาทำการส่ง IP Address จะประกอบไปด้วยตัวเลข 4 ชุดและจะมีเครื่องหมายจุดขั้นกลางระหว่างตัวเลขของชุด (Private IP) เช่น 

  • 10.10.0.1
  • 172.16.0.1
  • 192.168.0.1

โดยหมายเลข IP Address ของคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องนั้นจะไม่ซ้ำกัน โดยตัวเลขทั้ง 4 ชุดนี้จะแบ่งออกเป็น Network IP กับ Host ID ซึ่งจะเป็นตัวบอกให้เราทราบว่าคอมพิวเตอร์เรานั้นอยู่ใน Network วงไหน และ Class ไหน ดังภาพตัวอย่าง

  • เครื่องคอมพิวเตอร์ได้รับ IP Address เป็น : 10.0.0.96

 

 

สาเหตุที่ต้องทำการแบ่ง Class นั้นเพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นการแบ่ง IP Address ออกเป็นหมวดหมู่นั้นเอง โดย IP Address จะมี 3 Class ด้วยกันโดยแต่ละ Class นั้นคือ (Private IP)

  • Class A : 10.0.0.0 - 10.255.255.255 
  • Class B : 172.16.0.0 - 172.31.255.255 
  • Class C : 192.168.0.0 - 192.168.255.255

 

Subnet Mask คืออะไร?

 

        พูดถึงเจ้าตัว Subnet Mask คือ เป็นค่า Parameter ซึ่งใช้ระบุควบคู่กับเจ้าตัว IP Address โดย Subnet Mask มีหน้าที่แบ่งแยกส่วนของ IP Address ว่าส่วนไหนเป็น Network Address และ ส่วนไหนเป็น Host Address โดยจะสามารถสังเกตได้เพราะทุกครั้งเมื่อเรากำหนดหมายเลข IP Address ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายต้องกำหนด Subnet Mask ลงไปด้วยทุกครั้ง IP Address จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงอยู่ที่ Subnet Mask ที่เรากำหนดค่าไว้ให้

  • ตัวอย่างโปรแกรมที่ใช้คำนวน Subnet Calculator

 

 

ในหนึ่ง Subnet Mask จะประกอบไปด้วย 3 อย่างหลัก ๆ คือ

  • Subnet ID หรือ IP Address เริ่มต้นของแต่ละ Network
  • IP Address ของสมาชิก
  • Broadcast Address หรือ IP Address สุดท้ายของ Network

 

  • Class A จะมี Subnet Mask เป็น 255.0.0.0
  • Class B จะมี Subnet Mask เป็น 255.255.0.0
  • Class C จะมี Subnet Mask เป็น 255.255.255.0

 

โดย IP Address Private Network ของแต่ละ Class นั้นจะมีดังนี้

  • Class A : 10.0.0.0 - 10.255.255.255 มีสมาชิกในเครือข่ายทั้งหมด 16,777,214 เครื่อง
  • Class B : 172.16.0.0 - 172.31.255.255 มีสมาชิกในเครือข่ายทั้งหมด 65,534 เครื่อง
  • Class C : 192.168.0.0 - 192.168.255.255 มีสมาชิกในเครือข่ายทั้งหมด 254 เครื่อง

ในส่วนของ Mask bits จะเป็นตัวกำหนดว่าให้มีสมาชิกในระบบได้ทั้งหมดกี่เครื่องเช่น /24 จะมีสมาชิกในเครื่อข่ายได้ 256 เครื่องโดยแบ่งเป็น Subnet ID และ Broadcast Address จะเหลือ IP Address ที่สามารถใช้ได้ 254 เครื่อง

 

*MikroTik สามารถคำนวน Subnet Mask ได้เช่นกันเพียงแค่เอา Cursor ของเมาส์ไปจ่อที่ช่อง Address ก็สามารถรู้ได้ว่าใช้งานได้กี่เครื่องดังรูป

 

 

นึกถึงทีมงานมืออาชีพนึกถึง VRProService